ตอนที่ผมเริ่มเล่นแทงบอลออนไลน์ใหม่ ๆ ผมไม่ได้สนใจเรื่อง ราคาบอล ต่อรอง เพราะสิ่งที่ผมคิดตอนนั้นคือ “ก็แค่เลือกทีมที่ชนะ แพ้ หรือเสมอ” แค่นั้นเอง ง่ายจะตาย…แต่พอลงสนามจริง ผมถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการเดาผลเท่านั้น สิ่งที่เปลี่ยนความคิดผมไปเลยก็คือ ราคาบอลต่อ นี่แหละ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกว่ามันสำคัญยังไง แต่พอเริ่มศึกษา ผมถึงได้รู้ว่า ราคาบอลมันเปรียบเสมือนภาพรวมของเกมที่กำลังจะเกิดขึ้น อัตราต่อรอง ราคาบอล มันบอกได้ทั้งกระแสของแต่ละทีม ฟอร์มล่าสุด และแม้กระทั่งแนวโน้มของการแข่งขันทั้งหมด
ราคาบอล ต่อรอง คืออะไร ทำไมต้องทำความเข้าใจก่อนเดิมพัน
วันหนึ่งผมจำได้เลยว่า แทงทีมต่อที่กำลังฟอร์มดีสุด ๆ แต่ดันลืมดู ราคาบอล ต่อรอง สุดท้ายทีมก็ชนะจริง แต่ดันยิงไม่ถึงราคาที่ตั้งไว้ ผมเลยเสียเงินเฉย ๆ ทั้งที่เลือกทีมชนะ วันนั้นแหละ ผมถึงได้รู้ว่าราคาบอลมันคือหัวใจของการเดิมพันเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ราคาบอลมันมีหลายแบบมาก ทั้งแบบเอเชียนแฮนดิแคป สูง/ต่ำ คู่/คี่ แต่ละแบบก็มีวิธีคิดต่างกัน ตอนนั้นผมนี่ต้องมานั่งจด มานั่งดูยูทูบสอนอ่านราคากันเลยทีเดียว แต่พอเข้าใจแล้ว บอกเลยว่าโลกของการเดิมพันมันเปิดกว้างขึ้นเยอะ ทั้งแทงบอลหรือคาสิโนสด ae casino ผมสามารถเลือกแทงได้ตามสไตล์ของตัวเอง และมีโอกาสทำกำไรที่ชัดเจนขึ้น
ราคาต่อรอง (Handicap)
รูปแบบนี้มักถูกเรียกติดปากว่า “แฮนดิแคป” หรือ “ราคาต่อ” เพราะเป็นการกำหนดแต้มต่อให้ทีมที่ดูแข็งแกร่งกว่า เพื่อให้เกมการเดิมพันดูสูสีมากขึ้น
- เช่น ทีม A แข็งกว่าชัดเจน ก็จะ “ต่อ” ทีม B ด้วยราคา -1
- หมายความว่า ถ้าคุณแทงทีม A แล้วอยากชนะเดิมพัน ทีม A ต้องชนะทีม B ด้วยสกอร์ มากกว่า 1 ลูก
- ถ้าชนะพอดี 1 ลูก = เจ๊า (คืนเงิน)
- ถ้าชนะไม่ถึง หรือเสมอ/แพ้ = เสียเงินเดิมพัน
ราคาต่อรองมีหลายระดับ เช่น -0.5, -1, -1.5 หรือแม้กระทั่ง -2 แล้วแต่ความแตกต่างของทีม ซึ่งผู้เล่นต้องประเมินความสามารถในการทำประตูของทั้งสองฝั่ง และความเสี่ยงที่รับได้ก่อนแทง
ราคาบอลสูง/ต่ำ (Over/Under)
อันนี้เข้าใจง่ายมาก เพราะไม่สนว่าใครจะชนะหรือแพ้ สนใจแค่ “จำนวนประตูรวม” ของทั้งสองทีม
- สมมติราคากำหนดไว้ที่ 2.5 ลูก
- ถ้าจบเกมแล้วยิงรวมกัน 3 ลูกขึ้นไป = แทง “สูง” จะชนะ
- ถ้ายิงรวมกัน 2 ลูกหรือน้อยกว่า = แทง “ต่ำ” จะชนะ
รูปแบบนี้เหมาะกับคนที่ดูสถิติเป็น หรือดูทรงเกมแล้วคาดการณ์ว่าคู่นี้จะยิงเยอะหรือน้อย
ราคาบอล 1×2 (Moneyline)
ตัวเลือกนี้ง่ายที่สุดในบรรดาทั้งหมด เพราะแค่ทายผลว่าใครจะชนะ หรือจบเสมอ โดยไม่มีการต่อแต้ม
- “1” = เจ้าบ้านชนะ
- “X” = เสมอกัน
- “2” = ทีมเยือนชนะ
ไม่ต้องสนใจว่าชนะกี่ลูก แค่ทายให้ถูกว่าใครชนะหรือเสมอก็พอ เหมาะกับคนที่เน้นดูผลแพ้-ชนะล้วน ๆ
ราคาบอลคู่/คี่ (Odd/Even)
รูปแบบนี้ก็ง่ายและสนุก เพราะแค่ทายว่าผลรวมของประตูจะเป็น “เลขคู่” หรือ “เลขคี่”
- ถ้ายิงรวมกันได้ 1, 3, 5 = คี่
- ถ้ายิงรวมกันได้ 2, 4, 6 = คู่
ไม่ต้องคิดเยอะเรื่องทีมไหนจะชนะ หรือยิงกันกี่ลูก แค่ทายว่าเลขที่ออกมาจะเป็นคู่หรือคี่ก็ลุ้นได้แล้ว
ราคาบอลต่อ ดูยังไง เบื้องต้นมีกี่รูปแบบที่นิยมใช้ มาดูกัน
ตอนแรกที่ผมหัดแทงบอลสด บอกตรง ๆ ว่างงเป็นไก่ตาแตก โดยเฉพาะพวกตัวเลขแปลก ๆ อย่าง 0.93 หรือ 0.81 ที่โผล่มาเต็มหน้าจอ ผมนั่งมองอยู่พักใหญ่แล้วก็คิดในใจว่านี่มันเลขอะไรกันแน่ พอได้ลองเล่นจริงจังมากขึ้น ถึงเริ่มเข้าใจว่า นี่แหละคือ ราคาบอลต่อ แบบ HDP หรือแฮนดิแคป ซึ่งเป็นรูปแบบยอดฮิตในการแทงบอลสด ที่หลายคนใช้กัน เพราะมันทำให้เกมสนุกขึ้นเยอะ และเพิ่มความท้าทายในการลุ้นมากขึ้นด้วย การดูราคาบอลแบบนี้ มันไม่ได้ดูแค่ทีมไหนจะชนะ แต่ต้องดูด้วยว่าจะชนะเกินราคาต่อรองหรือเปล่า ยกตัวอย่างราคา เช่น 0.93 หรือ 0.81 พวกนี้ไม่ใช่เลขมั่ว ๆ นะครับ แต่มันคืออัตราคูณเงินที่เราจะได้หรือเสีย ขึ้นอยู่กับราคาที่ระบบคำนวณไว้ตามสถานการณ์ของเกมจริง
ราคาบอล “ต่อเสมอ” (0.0 หรือ 0.00)
- ไม่มีทีมไหนต่อหรือรองเลย
- แทงบอลออนไลน์ ทีมไหน ถ้าชนะ = ได้เต็ม
- ถ้าเสมอ = คืนทุน
- ถ้าแพ้ = เสียเต็ม
ราคาบอล “ป.ป” (0.25 หรือ 0-0.5)
ถ้าแทงทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = เสียครึ่ง
- แพ้ = เสียเต็ม
ถ้าแทงทีมรอง:
- ชนะ = ได้เต็ม
- เสมอ = ได้ครึ่ง
- แพ้ = เสียเต็ม
ราคาบอล “ครึ่งลูก” (0.5 หรือ 0.50)
ทีมต่อ:
- ชนะ = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- ชนะ/เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ = เสียเต็ม
ราคาบอล “ครึ่งควบลูก” (0.75 หรือ 0.5-1)
ทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูก = ได้ครึ่ง
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- ชนะ/เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = เสียครึ่ง
- แพ้ 2 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
ราคาบอล “หนึ่งลูก” (1 หรือ 1.0)
ทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูก = เจ๊า (คืนทุน)
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- ชนะ/เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = เจ๊า (คืนทุน)
- แพ้ 2 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
ราคาบอล “ลูกควบลูกครึ่ง” (1.25 หรือ 1-1.5)
ทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูก = เสียครึ่ง
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- ชนะ/เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = ได้ครึ่ง
- แพ้ 2 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
ราคาบอล “ลูกครึ่ง” (1.5 หรือ 1.50)
ทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูก = เสียเต็ม
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- แพ้ 1 ลูก = ได้เต็ม
- เสมอ/ชนะ = ได้เต็ม
- แพ้ 2 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
ราคาบอล “ลูกครึ่งควบสอง” (1.75 หรือ 1.5-2)
ทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูก = เสียเต็ม
- ชนะ 2 ลูก = ได้ครึ่ง
- ชนะ 3 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- แพ้ 1 ลูก = ได้เต็ม
- แพ้ 2 ลูก = เสียครึ่ง
- แพ้ 3 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
- เสมอ/ชนะ = ได้เต็ม
ราคาบอล “สองลูก” (2 หรือ 2.0)
ทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูก = เสียเต็ม
- ชนะ 2 ลูก = เจ๊า (คืนทุน)
- ชนะ 3 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- แพ้ 1 ลูก = ได้เต็ม
- แพ้ 2 ลูก = เจ๊า (คืนทุน)
- แพ้ 3 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
- เสมอ/ชนะ = ได้เต็ม
ราคาบอล “สองลูกควบลูกครึ่ง” (2.25 หรือ 2-2.5)
ทีมต่อ:
- ชนะ 1 ลูก = เสียเต็ม
- ชนะ 2 ลูก = เสียครึ่ง
- ชนะ 3 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ/แพ้ = เสียเต็ม
ทีมรอง:
- แพ้ 1 ลูก = ได้เต็ม
- แพ้ 2 ลูก = ได้ครึ่ง
- แพ้ 3 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
- เสมอ/ชนะ = ได้เต็ม
อัตราต่อรอง ราคาบอล ค่าน้ำที่ได้คืนและไม่ได้คืนดูได้อย่างไร
พอเริ่มเล่นบ่อยขึ้น ผมก็เริ่มรู้แล้วว่า จริง ๆ แล้ว อัตราต่อรอง ราคาบอล นี่แหละคือของจริง เป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดว่าเราจะได้กำไรเท่าไหร่ หรือเสียเงินเท่าไหร่จากการแทงในแต่ละคู่ หลังจากนั้นผมก็เริ่มเรียนรู้ โดยเฉพาะตอนเข้าเว็บ LSM99 ซึ่งเขาจะมีค่าน้ำขึ้นโชว์อยู่ตรงหน้าราคาต่อรองเลย แล้วก็มีสัญลักษณ์ “+” หรือ “-” ให้ดูชัด ๆ ว่าแทงแล้วจะได้หรือเสียยังไง เช่น ถ้าเห็นค่าน้ำ +0.85 แปลว่า แทง 100 จะได้กำไร 85 แต่ถ้าเป็น -0.85 ก็แปลว่า แทง 100 แล้วถ้าเสีย ก็จะเสียแค่ 85 เท่านั้น ซึ่งมันเหมือนเป็นตัวช่วยในการต่อยอดสำหรับบิลถัดไป ผมเคยแทงพลาด แต่เพราะเลือกค่าน้ำดี ก็ยังมีเงินเหลือพอให้ลุ้นในคู่ต่อไปได้อยู่
ได้คืนค่าน้ำ (ราคามีเครื่องหมายลบหน้า)
ถ้าเจอราคาที่มีเครื่องหมายลบ (เช่น -0.88 หรือ -0.94) แปลว่า ถ้าคุณแพ้ คุณจะไม่เสียเงินเต็มจำนวน แต่จะเสียตามค่าน้ำที่ระบุไว้ ซึ่งเหมือนเป็นการคืนทุนบางส่วนให้เรานั่นเอง
ตัวอย่าง:
- ราคา -0.88
- แทง 100 บาท
- ถ้าชนะ: ได้เต็ม 200 บาท (รวมทุน + กำไร)
- ถ้าแพ้: เสียแค่ 88 บาท (คืนค่าน้ำ 12 บาท)
- ราคา -0.94
- แทง 100 บาท
- ถ้าชนะ: ได้เต็ม 200 บาท
- ถ้าแพ้: เสีย 94 บาท (คืนค่าน้ำ 6 บาท)
สรุป: ยิ่งเลขหลังลบน้อย ยิ่งเสียเงินน้อยเวลาบิลเสีย ถือเป็นข้อดีเวลาจะเล่นแบบเซฟ ๆ หน่อย
ไม่ได้คืนค่าน้ำ (ไม่มีเครื่องหมายลบหน้า)
ถ้าเจอ อัตราต่อรอง ราคาบอล ที่ไม่มีเครื่องหมายลบ เช่น 0.88 หรือ 0.94 นั่นหมายความว่า ถ้าแพ้ เสียเต็มจำนวนทันที ไม่มีส่วนลด ไม่มีคืนค่าน้ำ เลยแม้แต่นิดเดียว
ตัวอย่าง:
- ราคา 0.88
- แทง 100 บาท
- ถ้าชนะ: ได้กำไร 88 บาท (รวมรับ 188 บาท)
- ถ้าแพ้: เสียเต็ม 100 บาท
- ราคา 0.94
- แทง 100 บาท
- ถ้าชนะ: ได้กำไร 94 บาท
- ถ้าแพ้: เสียเต็ม 100 บาท
สรุป: ถึงจะได้กำไรมากขึ้นถ้าชนะ แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงว่าจะเสียเต็มถ้าบิลไม่เข้า
ราคาบอล ต่อรอง สมัครเล่นกับ lsm99 ให้ราคาดีที่สุด
ถ้าใครคิดจะลองเดิมพันฟุตบอลแบบจริงจัง สิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้ให้เข้าใจก่อนเลยคือ ราคาบอล ต่อรอง เพราะมันไม่ใช่แค่ตัวเลขธรรมดา แต่มันคือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เราอยู่ในเกมนี้ได้นาน ทุกครั้งก่อนที่ผมจะวางเดิมพัน ผมจะใช้เวลานั่งเช็ก ราคาบอลต่อ จากทุกลีก ทั้งแบบต่อรองราคาน้ำหรือแม้แต่ทีเด็ดที่กูรูวิเคราะห์ไว้ การดูราคาบอลก่อนแทง มันช่วยให้ผมตัดสินใจได้ดีขึ้นเยอะมาก ผมเลือกเล่นกับเว็บใหญ่เจ้าหนึ่งที่มีระบบชัดเจน วิธีดูราคาบอลต่อรองง่าย เข้าใจได้ทันที ที่สำคัญคือทีมแอดมินตอบไวมาก เคยมีปัญหาเรื่องราคาขึ้นผิด พอทักไปทาง @Line ก็ได้รับการช่วยเหลือทันที ไม่มีอารมณ์เสีย ไม่ต้องรอนาน แถมยังอธิบายให้เข้าใจเพิ่มอีกด้วย